ถึงแม้อากาศจะแปรปรวน บางวันมีแสงแดดจัด บางวันแดดร่มลมตก
แต่หารู้ไม่ว่าในภาวะที่ไม่มีแสงแดดนั้น รังสียูวีเอและยูวีบียังคงมีอยู่
ซึ่งทั้งสองรังสีนี้ยังเป็นตัวการสำคัญในการทำลายผิวพรรณของสาวๆ อยู่เสมอ สำหรับคนไทยในการปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ ด้วยค่าพีเอ +++
และยูวีบีด้วยค่า เอสพีเอฟ 50
เนื่องจากเจ้ารังสีที่ว่าคือหนึ่งในตัวการเร่งทำลายผิวให้หมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำ
ริ้วรอยก่อนวัย ตลอดจนก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
พญ.สุนิดา ยุทธโยธิน
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังกล่าว ไม่ว่าในสภาวะแวดล้อมไหน
ย่อมมีรังสียูวีเอและยูวีบีอยู่ โดยเฉพาะแดดบ้านเราแรงกว่ายุโรป
แต่โชคดีที่ผู้หญิงเอเชียมีเมลานินที่ผิวเยอะ ช่วยกรองแสงได้อีกชั้นหนึ่ง
แต่ไม่ใช่แค่แสงแดดเท่านั้น หากแสงไฟ ความร้อนจากเตา หรือจอคอมพิวเตอร์
ล้วนเป็นตัวการทำร้ายผิว ถ้าไม่รีบดูแลจะทำให้เกิดร่องลึกเป็นริ้วรอยก่อนวัย
ขณะที่รังสียูวีบี เมฆหรือกระจกสามารถกรองได้ แต่เมื่อโดนมากๆ
ก็อาจทำให้ผิวไหม้และเป็นมะเร็งได้”
พญ.สุนิดาแจงพร้อมกับย้ำเรื่องการทาโลชั่นหรือครีมกันแดดทุกวัน
ส่วนการเลือกให้พิจารณาจากกิจกรรมในแต่วัน เช่น หากอยู่ในร่มเป็นส่วนใหญ่
ควรใช้เอสพีเอฟ 30 ถ้าต้องออกแดดควรใช้เอสพีเอฟ 50 และควรเลือกที่เป็นพีเอ ++
เพื่อช่วยป้องกันผิวจากยูวีเอด้วย
"ปริมาณในการทาก็สำคัญ ควรใช้ 2.5
กรัมต่อครั้งหรือประมาณ 5 ข้อนิ้วมือ โดยทาได้ 2 ชั้นที่หน้าและคอ
ส่วนที่เหลือให้ทาเน้นที่แก้มและดั้งจมูก
โลชั่นหรือครีมกันแดดจะได้ผลดีต้องทาก่อนออกแดด 30 นาที ในการเล่นกิจกรรมทางน้ำ
เช่น ว่ายน้ำ หรือดำน้ำ หลังจากทาไปแล้ว 100-120 นาที ให้ทาซ้ำอีกครั้ง
ท้ายสุดให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน "
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังกล่าว
สาวๆ
คนไหนที่รู้ตัวว่ากำลังทำร้ายผิวสวยๆ อยู่ รีบแก้ไขด่วน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น