วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

พูดถึงครีมกันแดด

ถึงแม้อากาศจะแปรปรวน บางวันมีแสงแดดจัด บางวันแดดร่มลมตก แต่หารู้ไม่ว่าในภาวะที่ไม่มีแสงแดดนั้น รังสียูวีเอและยูวีบียังคงมีอยู่ ซึ่งทั้งสองรังสีนี้ยังเป็นตัวการสำคัญในการทำลายผิวพรรณของสาวๆ อยู่เสมอ  สำหรับคนไทยในการปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ ด้วยค่าพีเอ +++ และยูวีบีด้วยค่า เอสพีเอฟ 50 เนื่องจากเจ้ารังสีที่ว่าคือหนึ่งในตัวการเร่งทำลายผิวให้หมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัย ตลอดจนก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง

 พญ.สุนิดา ยุทธโยธิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังกล่าว ไม่ว่าในสภาวะแวดล้อมไหน ย่อมมีรังสียูวีเอและยูวีบีอยู่ โดยเฉพาะแดดบ้านเราแรงกว่ายุโรป แต่โชคดีที่ผู้หญิงเอเชียมีเมลานินที่ผิวเยอะ ช่วยกรองแสงได้อีกชั้นหนึ่ง แต่ไม่ใช่แค่แสงแดดเท่านั้น หากแสงไฟ ความร้อนจากเตา หรือจอคอมพิวเตอร์ ล้วนเป็นตัวการทำร้ายผิว ถ้าไม่รีบดูแลจะทำให้เกิดร่องลึกเป็นริ้วรอยก่อนวัย ขณะที่รังสียูวีบี เมฆหรือกระจกสามารถกรองได้ แต่เมื่อโดนมากๆ ก็อาจทำให้ผิวไหม้และเป็นมะเร็งได้” พญ.สุนิดาแจงพร้อมกับย้ำเรื่องการทาโลชั่นหรือครีมกันแดดทุกวัน ส่วนการเลือกให้พิจารณาจากกิจกรรมในแต่วัน เช่น หากอยู่ในร่มเป็นส่วนใหญ่ ควรใช้เอสพีเอฟ 30  ถ้าต้องออกแดดควรใช้เอสพีเอฟ 50  และควรเลือกที่เป็นพีเอ ++ เพื่อช่วยป้องกันผิวจากยูวีเอด้วย

 "ปริมาณในการทาก็สำคัญ ควรใช้ 2.5 กรัมต่อครั้งหรือประมาณ 5 ข้อนิ้วมือ โดยทาได้ 2 ชั้นที่หน้าและคอ ส่วนที่เหลือให้ทาเน้นที่แก้มและดั้งจมูก โลชั่นหรือครีมกันแดดจะได้ผลดีต้องทาก่อนออกแดด 30 นาที ในการเล่นกิจกรรมทางน้ำ เช่น ว่ายน้ำ หรือดำน้ำ หลังจากทาไปแล้ว 100-120 นาที ให้ทาซ้ำอีกครั้ง ท้ายสุดให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน " แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังกล่าว

 สาวๆ คนไหนที่รู้ตัวว่ากำลังทำร้ายผิวสวยๆ อยู่ รีบแก้ไขด่วน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น